วันนี้เราจะพูดถึงไข้คีโตกันก่อนหน้านี้ เราได้มีบทความเกี่ยวกับใครควรทานคีโตเจนิกและไม่ควรทานคีโต เพราะหลายคนที่อาจจะไม่รู้คิดว่าเหมือนกับการลดน้ำหนักทั่วไปได้ เราจะมาพูดถึงผลข้างเคียงจากการทานคีโต เพราะบางคนอาจมีอาการ ไข้คีโต (keto flu) แต่บางคนอาจจะไม่มีอาการเลยก็ได้ อาหารคีโตที่เรากินกันไขมันสูง และทานคาร์โบไฮเดรตน้อยมาก หลีกเลี่ยงแป้งและน้ำตาล สิ่งนี้จะช่วยลดน้ำหนักได้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม การกินคีโตมีผลข้างเคียงมากมาย ไม่ใช่ทุกคนที่กินคีโตได้ มีคนบางประเภทที่กินคีโตไม่ได้ เดี๋ยวเราจะอธิบายให้ทุกคนฟังกัน
อาการไข้คีโต ที่มือใหม่หัดทานควรรู้
- ไข้คีโต (keto flu)
อาการจะไม่เหมือนกับอาการปวดหัว เป็นไข้ และหนาวสั่น มันไม่ได้เพิ่มอุณหภูมิร่างกายของคุณ มันแค่อึดอัด ไม่สบายตัว บางรายมีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย อ่อนเพลีย ไม่มีแรง คลื่นไส้ และมีปัญหาเกี่ยวกับการถ่ายท้อง เหตุผลคือ การที่ไม่ได้กินคาร์โบไฮเดรต ทำให้ร่างกายขาดน้ำและเกลือแร่ในช่วงคีโตแรกเริ่มที่ทานคีโต สักพักคุณก็ปรับตัวได้และค่อยๆดีขึ้น ผู้ที่รับประทานอาหารที่เป็นคีโตเจนิกควรพิจารณาเรื่องนี้เป็นอันดับแรกเลยว่าจะภาวะแทรกซ้อนอะไรบ้าง? อย่ามัวแต่อยากผอมจนมากเกินไป ให้คำนึงถึงสุขภาพของเราเป็นสำคัญ - อาการท้องผูก
ระบบการขับถ่ายแปรปรวน บางคนเมื่อปรับมาทานอาหารคีโตอาจจะทำให้ท้องผูก หลังจากปรับตัวให้เข้ากับอาหารคีโต ร่างกายของเราจะขับน้ำออกมามากกว่าปกติ
ผู้ทานคีโตยังต้องดื่มน้ำมากๆ เพราะเมื่อร่างกายขาดน้ำทำให้กระบวนการย่อยอาหาร ระบบขับถ่ายก็จะมีประสิทธิภาพน้อยลง - ความอยากอาหารที่เปลี่ยนไป
สมองของเราจะบอกคุณว่าคุณกำจัดคาร์โบไฮเดรตออกจากวงจรชีวิตของคุณไปแล้วนะ เราต้องการคาร์โบไฮเดรต หากคุณยังคงต่อต้าน สารในสมองจะถูกสร้างขึ้นมากขึ้น และจะให้หลายคนทนไม่ไหวกลายเป็นคนที่กินจุกกินจิก หากไม่มีระเบียบวินัย จะให้แย่ได้ อาการเหล่านี้เป็นการตอบสนองทางชีวภาพของร่างกาย เกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของคุณหลังจากกินคีโตและเลี่ยงทานคาร์โบไฮเดรตนั้นเอง - อารมณ์แปรปรวน
อีกหนึ่งอาการหลังเลิกทานคาร์โบไฮเดรต หากคุณไม่กินคาร์โบไฮเดรตที่จำเป็นต่อการสร้างเซโรโทนิน ซึ่งเป็นสารเคมีในสมองที่ช่วยควบคุมอารมณ์ของคุณ คุณอาจมีอาการนอนไม่หลับ หลับไม่สนิท และอยากอาหารมากขึ้น เลยกลายเป็นว่าใจไม่มีความสูขกับการทานคีดตเท่าที่ควร - อาการท้องร่วงของ ไข้คีโต
อาการเหล่านี้เป็นอาการของไข้คีโตที่มักปรากฏบนชาร์ตของผู้รับประทานคีโตเจนิกจำนวนมาก น้ำดีที่ตับหลั่งออกมาเมื่อรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง เนื่องจากอาหารคีโตเน้นที่การกินไขมัน 75% ดังนั้นจึงปล่อยน้ำย่อยส่วนเกินออกมาเมื่อย่อยอาหารที่มีไขมัน เป็นยาระบายร่างกาย น้ำดีที่มากเกินไปจะทำให้ระบบขับถ่ายอักเสบและลุกลามไปสู่อาการท้องเสียได้เร็วกว่าปกติ - หิวน้ำตลอดเวลา
ทำไมเราถึงรู้สึกกระหายน้ำเมื่อต้องการดื่มน้ำบ่อยๆ อย่างที่หลายๆ คนรู้สึก? เนื่องจากร่างกายของเราขับน้ำออกมากขึ้น มาดูกันดีกว่าว่าร่างกายที่กระหายน้ำของคุณกำลังขาดน้ำและขาดน้ำหรือไม่ หากได้รับน้ำไม่เพียงพอ ปัสสาวะจะมีสีเหลืองเข้มและมีกลิ่นฉุน แต่ถ้าเราได้รับน้ำเพียงพอปัสสาวะมีความใส - ลมหายใจมีกลิ่น
ร่างกายของเราเข้าสู่สภาวะคีโตสิสเมื่อเรารับประทานอาหารคีโต นอกจากนี้ยังผลิตคีโตนและอะซิโตน สิ่งที่ร่างกายของเราทำตามธรรมชาติ คีโตนจะถูกปล่อยออกมา เมื่อหายใจออกจะได้กลิ่นที่แตกต่างออกไป (สาวกคีโตเคยสังเกตมั้ย?) - ไข้คีโต คือ เบื่ออาหาร
การจำกัดการบริโภคอาหารโดยการลดการบริโภคอาหารโดยทั่วไปจะเพิ่มความหิว ฉันอยากกินมาก ๆ เพื่อคลายความหิว
ความปรารถนาที่จะตื่นขึ้น อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณใช้วิธีคีโตในการลดน้ำหนัก คุณจะสูญเสียความอยากอาหารและรู้สึกหิวน้อยลง
นี่เป็นเพราะคุณกินคาร์โบไฮเดรตในปริมาณเล็กน้อย ดังนั้นจึงหยุดการผลิตฮอร์โมนกระตุ้นความหิวที่เรียกว่าฮอร์โมนเกรลิน นั้นเอง - ไตทำงานหนัก
เนื่องจากอาหารที่พวกเขากินนั้นประกอบด้วยเนื้อสัตว์และไขมันเป็นหลัก และเมื่อได้รับเพียงพอ ไตของเรามีหน้าที่ในการเผาผลาญสิ่งที่เรากินเข้าไป ให้เป็นพลังงานกลับมา จึงทำให้ไตทำงานหนักมาก - มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ
นั่นเป็นสาเหตุมาจากอาหารคีโตที่มีเนื้อแดง เนย และชีสสามารถเพิ่มคอเลสเตอรอลในอาหารคีโตได้ ดังนั้นคุณควรตรวจสุขภาพกับแพทย์เนื่องจากอาหารเหล่านี้เสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ
อาการไข้คีโตทั้ง 10 อาการ บางคนมีอาการ 2-3 อาการ บางคนมีอาการหลากหลาย และใครควรหลีกเลี่ยงอาหารคีโต อย่างที่เราได้เคยบอกไว้ คุณต้องเรียนรู้วิธีลดน้ำหนัก หาความรู้ก่อน ดูเเลสุขภาพของคุณเอง ใครควรทานไม่ควรทาน keto ดังที่คุณทราบดังนี้แล้ว ก่อนทานคีโตควรตัดสินใจให้ดีก่อน