ดินสอเขียนคิ้ว shiseido รีวิว

shiseido ดินสอเขียนคิ้ว

ดินสอเขียนคิ้ว shiseido รีวิว เพราะคิ้วคือความงามหลักของหน้า

ดินสอเขียนคิ้ว shiseido เป็นอีกหนึ่ง ITEM ลับที่สาว ๆ หลายคนรู้ ไม่ได้บอกเพื่อ เพราะกลัวเพื่อนสวยกว่า แต่วันนี้เราจะมาบอก เล่าถึงเจ้าไอเท็มเด็ดตัวนี้แบบหมดเปลือก เมื่ออ่านจบคิ้วสวย ๆ แบบที่คุณต้องการนั้นจะมาแน่นอน

ดินสอเขียนคิ้ว shiseido รีวิวข้อมูลเบื้องต้น

ดินสอเขียนคิ้ว shiseido มาในรูปแบบดินสอแบบดั้งเดิมที่ต้องเหลาเมื่อต้องใช้งาน ในแท่งสีขาว จับถนัดมือ ด้วยเส้นผ่าศูนย์กลางที่ไม่เล็ก ไม่ใหญ่มาก ราคาในหลักร้อยที่เอื้อมถึงทุกระดับแน่นอน เนื้อที่เขียนง่าย ไม่หักง่าย ทำให้การใช้งานสะดวก แม้ว่าจะมาในรูปแบบการเหลาก็ตาม เชื่อว่าหลายคนที่เดินทางไปญี่ปุ่นจะต้องซื้อกลับเมืองไทยมาใช้งานแน่นอน เพราะว่าสีที่มาหลายเฉด ทำให้ใช้งานได้กลับสาว ๆ ทุกคนที่ต้องการเฉดสีตามผม ความสวยงามที่ตนเองชื่นชอบ สามารถหาซื้อได้ง่าย ๆ ที่เมืองไทย ตามร้านขายเครื่องสำอางชั้นนำ แน่นอนว่าสามารถสั่งออนไลน์ได้แล้วด้วย ซึ่ง LINK สั่งซื้อจะอยู่ที่ด้านล้างสุดของบทความนี้เลย

shiseido eyes

ดินสอเขียนคิ้ว shiseido รีวิวประสิทธิภาพ การใช้งาน

ดินสอเขียนคิ้ว shiseido เป็นดินสอเขียนคิ้วแบบเหลา ไม่ใช่แบบ AUTO หากต้องการใช้งานจะต้องเหลาก่อน แต่มันทนทาน หักยาก บางครั้งเหลาไปแล้วยังสามารถใช้งานต่อได้เรื่อย ๆ ไม่ต้องเหลาบ่อย มันจึงไม่เป็นอุปสรรคมากมาย ดินสอที่มีขนาดความยาวกำลังดี เมื่อเอาปลอกสวมที่ท้ายของตัวดินสอ จะจับได้ถนัดมือกว่าเดิม ขนาดวงกลมที่ไม่ใหญ่ ไม่เล็กเกินไป ทำให้ขณะใช้งาน สามารถใช้งานได้อย่างคล่องแคล่ว ไม่ต้องห่วงเรื่องหลุดมือเลย เนื้อของมันติดทนนานมาก ไม่หลุดง่าย สำหรับคนที่คิ้วมัน หรือมีผิวมันก็สามารถใช้งานได้ เพราะทดสอบมาแล้วพบมาว่า ติดทนมาก การล้างก็ไม่ยากเพียงแค่ใช้ Makeup remover เช็ดเบา ๆ ก็ออกเกลี้ยง ไม่ทิ้งร่องรอบเอาไว้เลย ฉะนั้นไม่ต้องห่วงว่าล้างยาก จะไปทำให้ตาเป็นรอยดำฝั่งอยู่แบบยี่ห้ออื่น ๆ มันมาด้วยราคาเพียง 100 บาทไทยเท่านั้น คุณภาพขนาดนี้มันจึงคุ้มค่าเงินที่เสียไปอย่างมากเลย ใครที่เป็นมือใหม่หัดเขียนคิ้วเอง ก็ลองหามาใช้งานได้เลย เพราะเขียนง่าย เขียนลื่นมาก ๆ 

ดินสอเขียนคิ้ว shiseido เป็นอีกหนึ่ง Item เด็ดที่สาว ๆจะต้องหามาติดตัว เพราะมันทั้งพกพาง่าย ใช้งานสะดวก ติดทนนาน แบบที่ยี่ห้ออื่น ๆ ให้ไม่ได้ในราคานี้ ไม่ว่าสาว ๆ จะเป็นคนระดับไหนก็เหมาะที่จะมีไว้ครอบครอง อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ LINK https://www.shiseido.co.th/

laura mercier foundation powder รีวิว

laura mercier foundation powder

laura mercier foundation powder รีวิวในส่วนต่าง ๆ ที่ต้องรู้

laura mercier foundation powder แป้งเทพที่สาว ๆ หลายคนต้องการมีไว้ใน Dressing table แน่นอน เพราะหลายต่อหลายคนร่ำลือกันถึงสรรพคุณของมันว่าเด็ดขนาดไหน มันเด็ดขนาดไหนวันนี้เราจะได้รู้จักมันแบบเน้น ๆ

laura mercier foundation powder ส่วนของรูปลักษณ์ ภายนอก

laura mercier foundation powder เป็นแป้งอัดแข็ง ที่มาในตลับเหลี่ยม ตัวเรือนสีดำ ประกายแดงอมม่วง ดูภายนอกก็สวยงามน่าค้นหาต่อแล้ว ไม่เพียงเท่านั้น มันยังมาพร้อมฝาที่เปิดออกมาแล้วมีกระจกบานเล็ก ๆ พร้อมใช้งานตลอดอีกด้วย พัฟที่มาในตัวเพื่อให้สาว ๆ ได้ใช้งานอย่างสะดวกได้ในตลับเดียวเลย ขนาดบรรจุที่ 7.2 กรัม พร้อมราคาขายที่ 1,850 บาท ผลิตที่ประเทศ America เหมาะกับการใช้งานของทุกสภาพผิว ที่ต้องการปกปิดเพิ่มเติมจากรองพื้น อายุการใช้งานถึง 3 ปี นับจากวันที่ผลิต สามารถดูได้ที่ผลิตภัณฑ์เลย 

laura mercier foundation powder ส่วนของภายใน ประสิทธิภาพการใช้งาน

laura mercier foundation powder มาด้วยกันถึง 3 เฉดสี โดยสี 01 จะเป็นเฉด ขาว เหลือง สี 02 จะเป็นสี ขาวชมพู ขาวสองสี สุดท้ายสี 03 จะเป็นสี ผิวคล้ำ เหลือง แป้งตัวนี้จะเป็นแป้งผสมรองพื้นที่อัดแข็ง ผสม Light Reflecting ที่มาเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์นี้อยู่แล้ว ตัวส่วนผสม special นี้จะช่วยให้ใบหน้าของสาว ๆ ดู Glow สว่างขึ้นด้วยเมื่อออกไปเจอแสงแดด หรือแสงไฟ แป้งตัวนี้สามารถปกปิดริ้วรอยได้ดีมาก ปิดได้มากกว่า 10 % เลย สีที่ดูเป็นธรรมชาติไม่ลอย ไม่วอก ทำให้ใช้งานง่าย การติดทนนานนั้นสามารถทำได้ดีถึง 12 ชั่วโมงเลยด้วยกัน แน่นอนว่ามันควบคุมความมันบนใบหน้าของสาว ๆ ได้ดีเช่นเดียวกันเลย อีกทั้งยังกันน้ำ กันเหงื่อ ฉะนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องที่จะหลุดล่อน เมื่อท่านจะต้องไปที่กลางแจ้งเลยด้วยนั่นเอง เมื่อท่านต้องการที่จะให้มันสามารถติดทนนานกว่าเดิม สาว ๆ สามารถใช้พัฟชุบกับน้ำหมาด ๆ แล้วแต้มไปที่แป้ง ก่อนที่จะลงบนใบหน้าได้ด้วย การทำแบบนี้จะช่วยให้แป้งอยู่บนใบหน้าของสาวได้ดีกว่าเดิมนั้นเอง

laura mercier foundation powder เฉดสี

laura mercier foundation powder อย่างที่สาว ๆ หลายคนทราบดีว่ามันเป็นแป้งอัดแข็งในตำนาน ที่หลายคนได้ใช้ก็ติดใจ ใช้ซ้ำมามากมายเลย  เพราะด้วยคุณสมบัติมากมายที่ช่วยให้ใบหน้าของผู้หญิงสามารถมั่นใจในความสวยได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องห่วงเรื่องของวอก ลอย เมื่อเจอแสง flash หน้ากล้องอีกด้วย ทั้งนี้แป้งตัวนี้ยังสามารถใช้ได้เป็นเวลานาน คุ้มค่าต่อเงินที่เสียไปอย่างมากสามารถหาอ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ https://www.lauramercier.co.th/

laura mercier รีวิว ต้นกำเนิดแห่ง Cosmetics

laura mercier history

laura mercier รีวิว ประวัติ ความเป็นมาของต้นกำเนิดแห่ง Cosmetics

laura mercier รีวิว ในส่วนนี้จะพาสาว ๆ ทุกคน ไปทำความรู้จักกับแบรนด์ดังที่ Luxury เลอค่า อย่างแบรนด์ลอร่า เมอซิเย่ร์ นี้กันแบบลึกซึ้ง เรียกได้ว่าเปิดประวัติออกมาทุกซอกเลยก็ว่าได้ ใครสงสัยเรื่องไหน จะได้รู้ทั้งหมดที่นี่เดี๋ยวนี้

laura mercier ต้นกำเนิด

laura mercier รีวิว ประวัติ ความเป็นมา

laura mercier รีวิว วันนี้จะพาสาว ๆ ไปทำความรู้จักในส่วนต่าง ๆ ของแบรนด์นี้เพิ่มเติม ในส่วนแรกจะต้องมารู้จักกับการก่อตั้ง ประวัติความเป็นมากันก่อน แบรนด์นี้เกิดขึ้นในค.ศ. 1996  ด้วย Make Up artist ที่ชื่อว่า Laura Mercier หรือชื่อแบรนด์ในปัจจุบันนี้เอง เขาเป็นช่างแต่งหน้าที่โด่งดังมาในประเทศฝรั่งเศส เขาได้ทำการสร้างแบรนด์เครื่องสำอางของตัวเองขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานของเข้า ลูกค้าของเธอเอง ในช่วงเวลาต่อมาประมาณ 10 ปีหลัง แบรนด์นี้ได้ถูกซื้อไปโดยแบรนด์ชื่อดังอย่าง Shiseido เพื่อพัฒนาเครื่องสำอางภายในชื่อนี้ให้ได้รับการยอมรับที่กว้างกว่าเดิม แม้ว่าจะขายแบรนด์ไปแล้วชื่อยังคงใช้ชื่อเดิมในการทำการโฆษณา เธอผู้ก่อตั้งยังคงร่วมทำงานในบริษัทนี้ด้วย แต่ทำงานร่วมกันกับชาวญี่ปุ่นที่เป็นเจ้าของ Shiseido นั่นเอง 

laura mercier รีวิวการพัฒนาสู่แบรนด์ระดับโลก

laura mercier รีวิวในส่วนนี้จะพูดถึงเรื่องของก้าวเท้า เส้นทางการเดินต่อไปข้างหน้า ที่พัฒนามาจนถึงปัจจุบัน ที่เป็นแบรนด์ระดับโลกในที่สุด จากจุดเริ่มต้นที่มาจากช่างแต่งหน้าเพียงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งที่มุ่งหวังว่าจะได้สร้างเครื่องแต่งหน้าในแบบที่เขาต้องการ ผลิตภัณฑ์แต่งหน้าที่มีคุณภาพ เฉดสีสามารถใช้ได้กับทุกคนแบบเป็นธรรมชาติ โดยแบรนด์นี้ได้ถูกพัฒนาต่อด้วยเธอคนเดิมที่เป็นคนริเริ่ม แม้จะอยู่ภายใต้สังกัดใหม่ แต่ความคิดของเธอยังคงไม่รับการสร้างสรรค์ลงบนงานนี้อยู่มากมาย เธอมีแนวคิดที่ว่า เครื่องสำอางจะได้ทำให้ใบหน้าของผู้คนไร้ที่ติได้ ด้วยการแต่งหน้าที่เป็นธรรมชาตินี้ มันได้สร้างชื่อเสียงให้กับแบรนด์นี้อย่างท่วมท้น มันดังออกไปไกลระดับโลก ในเวลาไม่นานแบรนด์นี้ก็ก้าวขึ้นมาเป็นแถวหน้าของโลกแห่งการแต่งหน้าได้  โดยสินค้าของแบรนด์นี้ไม่ได้หยุดอยู่แค่ที่เครื่องแต่งหน้า แต่ยังมีเครื่องสำอาง Skincare เข้ามาเพิ่มด้วยการตอบรับก็ดีเช่นเดียวกัน

laura mercier รีวิวในวันนี้หวังว่าหลายคนคงได้รู้จัก อีกมุมที่ไม่เคยมีใครเปิดเผยให้ได้ทราบมาก่อน ทั้งแนวคิด ผู้ก่อตั้งที่เป็นดังทองของแบรนด์ ที่ทำให้แบรนด์นี้ประสบความสำเร็จระดับโลกได้จนถึงทุกวันนี้

 “รีวิว แป้งฝุ่น laura mercier แป้งลอร่าอันโด่งดัง”  https://pantip.com/topic/32809254

แป้งฝุ่น laura mercier

laura mercier แป้งฝุ่น

แป้งฝุ่น laura mercier ประสิทธิภาพ การใช้งานที่ต้องรู้ก่อนลงทุนซื้อ

แป้งฝุ่น laura mercier จะมานำเสนอเรื่องประสิทธิภาพ การใช้งานที่สาว ๆ หลายคนจะต้องรู้ก่อนที่จะเสียเงินซื้อ สาว ๆ จะต้องชื่นชอบ Reviews ฉบับนี้แน่นอน เพราะว่าเรารีวิวแบบไม่มีกั๊กหรือลำเอียง เข้าข้างแบบดูโอเวอร์แน่นอน

แป้งฝุ่น laura mercier ข้อมูลเบื้องต้น ของผลิตภัณฑ์

แป้งฝุ่น laura mercier แป้งฝุ่นที่ใคร ๆ ก็รู้ว่าดี เทพขนาดไหน แต่มันดีจริงไหม มันดีอย่างไรวันนี้ได้รู้กันแน่นอน แต่เบื้องต้นมารู้จักมันในส่วนของภายนอกเสียก่อนดีกว่า มันเป็นแป้งที่ถูกจัดอยู่ใน Loose Powder Category ในชื่อเต็มที่ว่า Translucent Loose Setting Powder  เป็นแป้งฝุ่นตลับกลม ๆ ที่มาพร้อมพัฟนุ่ม ๆ ไว้ให้ใช้งานกัน

  • Translucent Loose Setting Powder ขนาดบรรจุที่ 35 กรัม ต่อหนึ่งกระปุก ในราคาที่ 1,500 บาท โดยประมาณ ซึ่งตัวนี้เป็นตัวเก่าที่ทำออกมานานแล้ว
  • ตัวใหม่มีชื่อว่า Translucent Loose Setting Powder Glow ตลับ รูปทรงจะเป็นแบบเดิม แต่ไม่มีพัฟมาให้แล้ว มาในขนาดบรรจุใหม่ที่ 29 กรัม เท่านั้น ลดลงจากเดิมไป 6 กรัม ราคาที่ 1,590 บาท

แบบใหม่นี้จะมีความสว่างมากกว่าเดิมเมื่อใช้งานไปจะรู้สึกได้ ถ้าสาว ๆ คนไหน เคยใช้แบบ Translucent Loose Setting Powder จะเห็นได้ถึงความเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนเลย

Laura Mercier Translucent Loose Setting Powder

แป้งฝุ่น laura mercier รีวิว ด้านการใช้งาน ดีอย่างไร ใช้แล้วมีประโยชน์อย่างไร ?

แป้งฝุ่น laura mercier อย่างที่บอกว่ามันเป็นแป้ง Translucent Powder ที่เรียกง่าย ๆ ว่าเป็นแป้งฝุ่นที่มีไว้เพื่อใช้งานในการ setting ใบหน้าของสาว ๆ ที่แต่งแล้วให้ติดทนนาน มีสีที่เป็นธรรมชาติแบบที่ควรจะเป็นด้วย จากสูตรใหม่ที่เพิ่มความ Glow เข้าไปมากกว่าเดิมนี้ช่วยให้ใบหน้าของสาว ๆ นั้น ดูมีสุขภาพที่ดี สวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ มันช่วยอำพรางในส่วนของรอยดำ รอยแดง ริ้วรอย รวมถึงรูขุมขนของสาว ๆ ให้เนียนกว่าเดิมด้วย แน่นอนว่ามันเกิดมาเพื่อช่วยให้ Make up ที่ถูกแต่งลงบนใบหน้ามีอายุที่ติดทนนานกว่าเดิมหลายชั่วโมง อาจจะถึง 12 ชั่วโมงตามคำเล่าลืมเลยก็เป็นได้ สาว ๆ จะมีผิวหน้าที่เปล่งประกาย ไม่ลอย หรือวอก ไม่ว่าจะมองด้วยตา หรืออยู่ต่อหน้ากล้องที่ปล่อยแสงแฟลชก็ตาม การใช้งานสาว ๆ สามารถใช้งานทั้งหลังจากลงรองพื้นแล้ว หรือหลังจากแต่งหน้าแล้วก็ได้ตามต้องการเลย 

แป้งฝุ่น laura mercier เป็นแป้งฝุ่นที่มีสีเดียวกับใบหน้าของสาว ๆ ทุกคน ไม่ต้องห่วงเรื่องหน้าลอย วอกเมื่อต้องอยู่ในที่แสงจ้าเลย เพราะเครื่องสำอาง Brand นี้เน้นความเป็นธรรมชาติที่สุด สามารถหาอ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ https://www.lauramercier.co.th/

รีวิวแป้ง พัฟ laura mercier แบบเรียงตัว

laura mercier foundation powder

แป้ง พัฟ laura mercier  มีหลาย Product หลายสีให้สาว ๆ ได้เลือกใช้งานตามสีของผิว ความต้องการทางด้านประสิทธิภาพ แต่มีใครไหมที่สงสัยว่าแต่ละตัวของแป้งพัฟนี้มันมันต่างกันอย่างไร ดีแบบไหน ไม่เหมือนกันตรงไหน

แป้ง พัฟ laura mercier รีวิวเทียบรุ่นที่ละตัว

แป้ง พัฟ laura mercier มีหลายตัวมากให้สาว ๆ ได้ลองใช้งาน แน่นอนว่าจะต้องมีคนที่สงสัย ยังไม่ได้คำตอบว่าแต่ละตัวที่มีนั้น มันดีมาก น้อย แตกต่างกันอย่างไรบ้าง โดยแป้งของแบรนด์นี้นั้นมา สองตัว เป็นตัวตลับกลม ตัวตลับเหลี่ยม เพื่อให้สาว ๆ จำได้ง่าย ๆ จึงขอเรียกแบบนี้ โดยตลับเหลี่ยมมีชื่อว่า  Laura Mercier Foundation Powder ตลับกลมชื่อว่า Smooth Finish Foundation Powder เราจะมาแบ่ง Reviews กันทีละตัวเลย ดังนี้

  1. ตลับเหลี่ยมมีชื่อว่า  Laura Mercier Foundation Powder จะเป็นแป้งอัดแข็ง ในตำนานที่หลายคนคุ้นตากันดี เพราะมันมีมานานมาก ดีมาก ด้วยคุณสมบัติของมันที่เกิดมาเพิ่มปกปิดแบบขั้นเทพ ติดทนนานตลอดวัน พร้อมทั้งคุมมันได้นานมาก ดีมากมาก จนเป็นที่เลื่องลือกันปากต่อปากจากผู้ใช้งานจริงหลาย ๆ คนในเรื่องนี้ 
  2. ตลับกลมชื่อว่า Smooth Finish Foundation Powder ตัวนี้จะต่างจากตัวบนในหลาย ๆ ด้าน สิ่งแรกคือมันเป็นน้องใหม่ที่มาใหม่  ด้วยเนื้อที่เนียนละเอียดไม่แพ้กัน ทำให้ใบหน้าไม่รู้สึกว่าหนา เมื่อทามันลงไป ช่วยให้ผิวดูเป็นธรรมชาติสุด ๆ ช่วยปกปอดรอยได้ดีระดับหนึ่ง แต่อาจจะไม่เท่าตัวแรก มีส่วนผสมเพิ่มเข้ามาในส่วนของ Vitamin E Shea Butter ที่ช่วยบำรุงผิวไปด้วยในตัวของมันเอง

laura mercier foundation แป้งพัฟ

แป้ง พัฟ laura mercier รีวิวส่วนอื่นๆ

แป้ง พัฟ laura mercier รีวิวในส่วนอื่น ๆ นี้เราจะมาเก็บตกรีวิวในส่วนที่ยังไม่ได้พูดถึงไป เป็นของในส่วนภายนอกที่ต้องรู้เพิ่มเติม โดยจะรีวิวแยกทีละตัวเช่นเดิม ดังนี้

  1. Laura Mercier Foundation Powder มีให้เลือกทั้งหมด 3 เฉดสี คือ เบอร์ 01 – 03 ราคาขายที่ 1,700 บาท/ ตลับ มาด้วยน้ำหนัก 7.2 กรัม
  2. Smooth Finish Foundation Powder มีให้เลือกทั้งหมด 10 เฉดสี เบอร์ 01 – 10 ราคาขายที่ 1,950 บาท / ตลับ มาด้วยน้ำหนัก 9.2 กรัม

แป้ง พัฟ laura mercier มีหลายตัวให้สาว ๆ ได้เลือกใช้ตามความต้องการ มาพร้อม Shades ที่เป็นธรรมชาติที่แน่นอนว่า ไม่สาว ๆ ผิวไหนก็ไม่ต้องห่วงเรื่องหน้าลอย หน้าวอกเลย ด้วยคุณสมบัติที่คุมความมันตลอดวันที่ดีเยี่ยมก็หมดห่วงเรื่องหน้าเยิ้มไปได้อีกอย่าง สามารถหาอ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ https://www.lauramercier.co.th/

รองพื้น laura mercier ในตำนาน

laura mercier foundation

รองพื้น laura mercier ในตำนาน ดีหรือไม่ดี มีคำตอบ

รองพื้น laura mercier ที่หลายคนรู้จักนั้น เชื่อได้ว่าสาวกของเครื่องสำอางแบรนด์นี้จะต้องถูกใจการ Reviews นี้แน่นอน เพราะเรามาล้วงลึกแบบหมดเปลือกเลยว่ามันดีจริงสมคำร่ำลือหรือไม่ ควรซื้อมาใช้ หรือควรเฉย ๆ มีคำตอบกัน

รองพื้น laura mercier รุ่น ข้อมูลพื้นฐาน

รองพื้น laura mercier รุ่นที่เราจะมารีวิวนี้เป็นชื่อรุ่นว่า Flawless Fusion Ultra – Longwear Foundation  ที่เป็นดังตำนานของเครื่องมือรองพื้นที่สาว ๆ หลายคนต้องกาได้มาครอบครองอย่างแน่นอน มันมาในขนาดบรรจุที่  30 ml . พร้อมด้วยราคามน้ำสมเนื้อที่ 1,900 บาท โดยประมาณ อายุการใช้งานที่แสนจะยาวนานถึง  1 ปี หลังจากการเปิดใช้งานครั้งแรกเช่นเดิม รองพื้นตัวนี้ทำมาเพื่อทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะผิวมัน ผิวแห้ง ผิวผสม ใช้งานได้ทั้งหมด ไม่ต้องห่วงในเรื่องของประสิทธิภาพเลย โดยตัวนี้เป็น brand มาจากฝรั่งเศส ที่มีสัญชาติญี่ปุ่นติดมาด้วย รองพื้นตัวนี้มีมาให้เลือกทั้งหมด 30 เฉดสีด้วยกัน จึงหมดห่วงเรื่องที่ว่าจะไม่มีสีไหนเข้ากับผิวเราไปได้เลย เพราะเฉดให้เลือกเยอะมาก ๆ เลย รับรองว่าแมทได้กับทุกคนแน่นอน  ไม่ต้องห่วงเรื่องน้ำหอมที่อาจจะทำให้หลายคนระคายเคือง เพราะมันปราศจากน้ำหอมด้วยนั่นเอง

laura mercier รองพื้น

รองพื้น laura mercier รีวิว ประสิทธิภาพ คุณสมบัติ

รองพื้น laura mercier ในส่วนของประสิทธิภาพนั้น มันทำงานด้วยการคุมมันได้ถึง 15 ชั่วโมง ซึ่งน้อยมาก ๆ ที่รองพื้นจะทำได้ยาวนานขนาดนี้ เพราะเราจะเห็นส่วนใหญ่ว่ามันคุมมันแค่ 12 ชั่วโมงเท่านั้นเอง มาพร้อมเนื้อสัมผัสที่บางเบา ไม่หนักหน้า ไม่ต้องห่วงเรื่องความหนาที่อาจจะทำให้รู้สึกไม่สบายหน้าเวลาลงรองพื้นตัวนี้ มันให้การปกปิดตั้งแต่ระดับกลางไปจน ถึงระดับสูง ทั้งนี้อยู่ที่การเลือกเฉดสี เทคนิคการใช้งานด้วยนั่นเอง  รองพื้นตัวนี้ไม่มีน้ำมัน ท่านที่ผิวมัน จึงหมดกังวลว่าจะเยิ้มก่อนเวลา หรือไม่ทำให้ Make up ไหล เมื่อเหงื่อออกมาก ๆ ได้เลย ไม่ต้องห่วงเรื่องความอดทน ต่อความชื้น น้ำ เพราะมันกันน้ำได้สูงมาก อีกทั้งยังปลอดภัยต่อทุกสภาพผิว แม้ผิวแพ้ง่ายก็ตาม

รองพื้น laura mercier เป็นรองพื้นที่สาว ๆ ต้องไม่พลาดหามาใช้งาน ไม่ว่าจะใช้ในชีวิตประจำวัน หรือสำหรับปกปิด เพื่อออกงาน party ทั้งกลางคืนและกลางวันเพื่อให้ใบหน้าของสาว ๆ ทุกท่านนั้น ดูดี มีความเรียบเนียน แบบที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะเห็นรูขุมขน หรือริ้วรอยตามวัยได้เลย สามารถหาอ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ https://www.lauramercier.co.th/

Laneige รีวิว ต้นกำเนิด ประวัติความเป็นมา

laneige history

Laneige รีวิว แบบรู้ถึงต้นกำเนิด ประวัติความเป็นมา

laneige รีวิว ในวันนี้จะพาสาว ๆ ทุกคนไปทำความรู้จักกับมันให้มากกว่าเดิม เพราะแน่นอนว่าเมื่อเราจะเลือกใช้ Product ใด บนใบหน้าของเรานั้น เราจะต้องทำความรู้จักกับมันให้ลึกซึ้ง เพื่อที่เราจะสามารถไว้วางใจได้ว่าเราใช้ของดี

laneige รีวิว ประวัติ ต้นกำเนิด

laneige รีวิวในวันนี้จะมาเกี่ยวกับประวัติของแบรนด์ ต้นกำเนิดที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ แบรนด์นี้เป็นแบรนด์เครื่องสำอางจำพวก สกินแคร์ ที่ใช้ในการบำรุงผิวสะส่วนใหญ่  บริษัท เครื่องสำอางชื่อดังของเกาหลีอย่าง Amore Pacific ได้ทำการก่อตั้งแบรนด์ที่ชื่อว่า Laneige ในเดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2537 โดยมีการสะสมผลิตภัณฑ์ที่เอาไว้สำหรับดูแลผิวชื่อว่า ยูวีกรีน ( Uv green ) ภายใต้แคมเปญ “Laneige ปกป้องผู้หญิง” โดยเน้นคุณสมบัติของการสร้างภูมิต้านทานผิวหนัง ในสายการผลิต Laneige เพื่อการโปรโมท และได้ทำการคัดเลือกนักแสดงหญิง Lee Yoo-ri  Kim Kim-won มาเป็นตัวแทนของแบรนด์ ดูภายนอกในช่วงนั้นแม้จะประสบความสำเร็จไม่น้อย แต่ก็พบว่าพบว่าในทางตรงกันข้ามกับภาพลักษณ์ผู้บริโภคเห็นว่าแบรนด์นั้นมีความเป็นผู้ใหญ่น้อยมาก  ต่อมาในเดือนกรกฎาคมปี 1995 นักแสดงหญิงคิมจี – โฮกลายเป็นพรีเซ็นเตอร์คนที่สามของแบรนด์ Laneige จนทำให้แบรนด์ดังกล่าวมียอดขายถึง 100 พันล้านวอนในปี 1996เลย 

laneige รีวิว  ไทม์ไลน์ การพัฒนาตนสู่สากล

laneige รีวิว Timeline การพัฒนาของแบรนด์ที่จำหน่ายในประเทศเกาหลี เพื่อออกสู่ตลาดสากล โดยเริ่มต้นที่ในเดือนกันยายนปี 2017 Laneige ร่วมมือกับ Sephora ผู้ค้าปลีกเครื่องสำอางรายใหญ่ เพื่อเปิดตัวแบรนด์ใหม่ในสหรัฐอเมริกา โดยการเปิดตัวครั้งแรกของ Lip Sleeping Mask มาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ชูโรง ก่อนหน้านี้แบรนด์ก็ได้นี้การมีวางจำหน่ายสินค้าหลายรายการที่ร้านค้าปลีกในประเทศอเมริกัน โดยตั้งเป้าไว้ที่ตั้งแต่ปี 2014 ถึงปี 2015 ต่อมามีการนำเสนอเข้าจำหน่ายไปยังร้านอื่น ๆ โดย Sephora Canada ตั้งแต่เดือนกันยายน 2015 ต่อมา Laneige เปลี่ยนทิศทางการมุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื้น เปลี่ยนโฉมกลายมาเป็นแบรนด์ จากเดิมที่เป็นเพียงแคมเปญรอบแรกในระยะเวลาห้าปี ด้วยการแนะนำโลโก้ใหม่แนวคิดใหม่ที่ว่า “ความงามส่องสว่าง” ในต้นปี 2562 เพื่อจำหน่ายในร้านค้าสำคัญของยุโรปอย่าง Sephora  แบรนด์นี้ถูกเริ่มสร้างแบรนด์ในเดือนเมษายน 2019 อย่างชัดเจนที่สุด

laneige cream skin

laneige รีวิว เป็นเครื่องประทินผิวที่เชื่อว่าตอนนี้มีสาว ๆ หลายคนมีไว้ติดบ้านอย่างแน่นอน เพราะว่ามันเป็นเครื่องสำอางที่ราคาย่อมเยาว์ เข้าถึงได้ทุกระดับชั้น แน่นอนว่าเหมาะกับทุกสภาพผิวเลยด้วยนั่นเอง สาว ๆ สามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์นี้มาใช้ได้อย่างสบายใจ เพราะไม่ว่าใคร ๆ ใช้ก็มักจะมีรี Reviews ไปในทิศทางที่ดีกันทั้งนั้น

Sleeping mask ของลาเนจ (Laneige) ดีจริงมั้ยคะ? https://pantip.com/topic/38280421

laneige water sleeping mask

laneige water sleeping mask

laneige water sleeping mask รีวิวแบบจุใจ ครบทุกด้าน

laneige water sleeping mask หนึ่งใน product เกี่ยวกับการบำรุงหน้าที่ดีที่สุด ต้องยกให้ในเรื่องของการมมาสก์หน้า เพราะอย่างที่สาว ๆ หลายคนรู้ดีว่ามาสก์หน้านั้น เป็นการบำรุงที่ล้ำลึก ฟื้นฟูผิวได้อย่างเข้มข้นกว่าครีมทั่วไป

laneige water sleeping mask รีวิวข้อมูลเบื้องต้นที่ควรรู้

laneige water sleeping mask เป็นครีมมาสก์หน้าที่เป็นแบบการมาสก์ทิ้งไว้ได้เลยตลอดคืน เมื่อท่านมาสก์หน้าแล้ว ท่านจะได้รับการฟื้นฟูที่ล้ำลึกกว่าการทาครีม หรือ SERUM เพราะการมาสก์หน้านั้น จะเข้มข้นกว่านั้นเอง วันนี้ก็เป็นอีกมาสก์ตัวดังที่เราจะมารีวิวให้ท่านได้รู้จักกันในชื่อว่า ลาเนจ วอเตอร์ สลีปปิ้ง มาสก์ ตัวนี้จะมีสูตรเดียว คือสูตรกระปุกสีฟ้า แต่กระปุกสีเขียวจะเป็นอีกชื่อ อย่าสับสน เพราะโดยทั้งสองสูตรนี้ทำงานต่างกัน สีฟ้าจะช่วยในเรื่องของความชุ่มชื้น เติมน้ำ ให้หน้าแข็งแรง อิ่มฟู ส่วนตัวสีเขียว จะช่วยในเรื่องของการฟื้นฟูหน้าที่เสียหาย ถูกทำร้ายจนเกิดสิวให้ดีขึ้น

  • สีฟ้าจะบรรจุที่ 70 ml. ในราคา 1,100 บาท
  • สีเขียวจะบรรจุที่ 60 ml. ในราคา 1,290 บาท

อายุการใช้งานจะนับถัดไป 2 ปีหลังการเปิดฝาใช้งานครั้งแรกนั่นเอง ฉะนั้นอย่าเข้าใจว่ามันเหมือนกัน

Water Sleeping Mask

 

laneige water sleeping mask รีวิวถึงประสิทธิภาพ คุณสมบัติ

laneige water sleeping mask อย่างที่เราบอกว่ามันมีสองสูตรคือ ฟ้า เขียว ฉะนั้นเราจะมาแยกรีวิวที่ละตัวเพื่อให้ไม่เป็นการเลือกใช้ผิดสูตร ดังนี้

  • ตัวที่หนึ่งสูตรกระปุกฟ้า ชื่อว่า ลาเนจ วอเตอร์ สลีปปิ้ง มาสก์ ตัวนี้จะมาช่วยเติมน้ำให้ผิวของเรานั้น ฉ่ำ อิ่ม ฟู เด้ง แข็งแรง เพราะด้วยตัวส่วนผสมต่าง ๆ ที่ตรงเข้าไปบำรุง ประโลมผิวของเราให้หนีไกลจากความแห้ง กร้านที่อาจจะเกิดขึ้นจากการเสียน้ำในระหว่างวันของผิวหน้าได้กลับมาสดใส FRESH ชุ่มชื้นอีกครั้ง
  • ตัวที่สองสูตรกระปุกเขียว ชื่อว่า ลาเนจ ซิก้า สลีปปิ้งมาสก์ ตัวนี้จะเป็นเหมือนหน่วยซ่อมแซมที่เข้ามาฟื้นฟู รักษาในส่วนที่เสียหายให้กลับมาดีดั้งเดิม หน้าที่พัง แหก จากการแพ้ เกิดสิว จะกลับมาแข็งแรงดีขึ้นกว่าเดิม ช่วยให้หน้าใส CLEAR ไร้รอย ด่างดำ

เห็นได้เลยว่าทั้งสองตัวนี้ต่างกันมาก แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ มันเป็นมาสก์ ที่ไม่ต้องล้างออก โบกเสร็จแล้วหลับ ตื่นมาพบกับความสวยได้เลยแบบ EASY EASY

laneige water sleeping mask เป็นมาสก์ที่ช่วยให้สาว ๆ นั้นห่างไกลจากความแก่ได้ไม่น้อย เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ผิวขาดน้ำ ความเหี่ยวจะเข้ามาแทนที่ ริ้วรอย ความยับจะเข้ามามากมายเลย  เข้าชมผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ Link นี้ https://www.laneige.com/th/th/laneige_story/story/story.html

Get the look for Party

FACE

เคล็ดลับความงามต้องเริ่มจากผิวหน้าที่สวยสดใส อันดับแรกให้เริ่มจากการทาครีมบำรุงผิวหน้า ทิ้งไว้สักพักให้ครีมเซทตัว ก่อนลงรองพื้น เพราะจะทำให้ใบหน้าเรียบเนียนไม่เป็นปื้น จากนั้นค่อยๆแตะรองพื้นสูตรน้ำมาเกลี่ยให้ทั่วทั้งใบหน้า อย่าลืมว่าต้องพิถีพิถันในขั้นตอนนี้ ไม่เช่นนั้นรองพื้นอาจจะเป็นคราบได้ เดี๋ยวเสร็จออกมาจะไม่เลิศ ให้ท่องไว้ว่าจะสวยทั้งทีไม่ต้องรีบร้อนนะจ๊ะ ส่วนสาวๆ คนไหนที่ใบหน้ามีริ้วรอยด่างดำ ต้องใช้ตัวช่วยอย่างคอนซีลเลอร์ ทำให้หน้าใสเด้ง ค่อยๆ แต้มลงทีละจุด แล้วเกลี่ยให้เนียน ก่อนกดทับด้วยแป้งพับเนื้อบางเบา

EYES

สำหรับปาร์ตี้กลางคืนที่แสนสนุกสุดเหวี่ยง สาวๆ ต้องเพิ่มความโดดเด่นให้สวยที่สุดในงาน ด้วยการแต่งดวงตาให้โฉบเฉียบ ลองใช้อายแชร์โดว์สีเมทัลลิมมาเกลี่ยให้ทั่งทั้งเบ้าตา จากนั้นตามด้วยอายแชร์โดว์สีดำ – เทาเน้นให้ดวงตามีมิติ หรือจะใช้สีอื่นตามแต่สไตล์ก็ไม่ว่ากันนะคะ เลือกให้แมทช์กับลุคของคุณก็แล้วกัน ลืมบอกไปว่า ให้จัดระเบียบกับคิ้วด้วยนะคะ ถ้าหากรกหรือดกดำเกินไป ต้องกันออกให้ได้รูป แต่งหน้าออกมาจะได้สวยครบสูตร

หลังจากขั้นตอนการลงอายแชร์โดว์เรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงกาเขียนอายไลเนอร์ให้ดวงตาสวยคมยิ่งขึ้น เคล็ดลับอยู่ที่การเขียนลากจากหัวตาไล่ไปจนสุดปลายหางตา แล้วตวัดให้ปลายหางชี้ 45 องศา รับรองว่าออกมาเลิศแน่นอน จากนั้นปัดมาสคราร่าให้ขนตางอนอีก 2 – 3 รอบ หรือจะใช้วิธีการติดขนตาปลอมก็ได้เช่นกัน เลือกแบบแพหนายิ่งทำให้ดวงตาดุกลมโต เบิกดวงตาให้โดดเด่นเชียวละ

CHEEKS

บรัชออนสีพีชกำลังมาแรง เบรกดีกรีความร้อนแรงด้วยบรัชออนสีพีชที่ดูเป็นธรรมชาตินั้นแหละค่ะ เพียงเท่านั้นก็สวยเด้งได้เช่นกัน อย่าให้ส่วนแก้มไปแย่งซีนดวงตาคู่สวย ปัดให้ดูใสใส ด้วยการปัดวนเป็นวงกลม 1 รอบ แล้วปัดไล้ไล่ไปตามแนวโหนกแก้ม ให้แก้มมีสีสันระเรื่อ รับรองว่าเก๋ไก๋ไม่เบาเลยค่ะ

LIPS

ริมฝีปากอวบอิ่มถือว่าเป็นจุดเด่นอีกส่วนนึงบนใบหน้า แต่ต้องเลือกแมทช์ให้เข้ากับดวงตาด้วยนะค่ะ ถ้าอยากให้ร้อนแรงสุดๆ ไปเลยต้องเลือกสีแดงกร่ำ หยิบมาแต่งแต้มเรียวปากให้จัดจ้าน กับลุคเซ็กซี่ขี้เล่น เย้ายวนให้คุณกลายเป็นแม่สาวพราวเสน่ห์ยามค่ำคืน สวยเลิศไม่แพ้ใครแน่นอน อย่าลืมนะเคล็ดลับดีดีอย่างในไปใช้ ช่วยเพิ่มสีสันให้กับปาร์ตี้ปีใหม่ของคุณด้วยละ แล้วติดตามกันใหม่ในฉบับหน้านะคะ

Night Perfect Lady

 

ฉบับนี้ขอเผยถึงเทคนิคการแต่งหน้าสำหรับออกงานปาร์ตี้สังสรรค์ยามค่ำคืน ให้คุณเป็นสาวสวยรับไฟเจิดจรัสในงานที่โดดเด่นกว่าใครๆ เนื่องจากใกล้เทศกาลปลายปีทีไรหลายๆ คนก็คงมีการวางแผนที่เที่ยว ที่ฉลองกันยกใหญ่แล้ว โดยเฉพาะสาวๆ ที่รักงานปาร์ตี้ และสังสรรค์คงไม่พลาดแน่ๆ

ลงคอนซีลเลอร์

เพื่อปกปิดรอยหมองคล้ำรอบดวงตา ทำให้ใบหน้าดูสว่างขึ้น ด้วยการใช้ปลายนิ้วแตะคอนซีลเลอร์ใต้ตา ค่อย ๆ เกลี่ยให้ชิดขนตาล่างให้ยาวไปถึงหางตา เพื่อให้เกิดความกลมกลืน มีเทคนิคในการเลือกสีคอนซีลเลอร์เล็กน้อยค่ะ หากว่าคุณเป็นคนผิวขาวควรเลือกคอนซีลเลอร์โทนสีเหลืองที่ดูสว่าง แต่หากคุณเป็นคนผิวคล้ำควรเลือกคอนซีลเลอร์ที่ออกชมพูเล็กน้อย

รองพื้น

เลือกให้เหมาะกับสภาพผิวคุณด้วย เช่น ผิวแห้งก็ใช้รองพื้นที่มีส่วนผสมของน้ำมัน ผิวมันเลือกใช้ชนิดบางเบาเป็นแบบเจลหรือแบบน้ำก็ได้ ส่วนผิวหน้าที่มีปัญหาเรื่องสิวก็ควรเลือกรองพื้นชนิด Oil Free จากนั้นแต้มรองพื้น 5 จุด บนใบหน้า คือ หน้าผาก แก้มทั้ง 2 ข้าง จมูก คาง เกลี่ยให้ทั่วหน้า

แป้ง

ลงแป้งฝุ่นแบบบาง ๆ ก่อนแล้วค่อยเติมด้วยแป้งพัพฟ์บาง ๆ เช่นกัน มีเทคนิคในการเลือกแป้งพัพฟ์นิดหน่อยค่ะ ถ้าคุณเป็นคนผิวขาวควรเลือกสีของแป้งเข้มขึ้นมาอีกเบอร์หนึ่ง สำหรับคนที่มีผิวคล้ำหน่อย ควรเลือกสีที่ใกล้เคียงกับผิวของคุณ แต่ไม่ควรเลือกแป้งที่เข้มกว่าผิวของคุณนะคะ ไม่อย่างนั้นผิวของคุณจะยิ่งคล้ำไปกันใหญ่

คิ้ว

ตกแต่งคิ้วให้ได้รูปโดยใช้แปรงปัดตามรูปคิ้วให้เรียงตัวอย่างเป็นระเบียบ สำหรับคุณเป็นคนผิวขาวอยากแนะนำให้ใช้ดินสอเขียนคิ้วสีน้ำตาลอ่อน ส่วนสาวผิวเข้มแนะนำให้ใช้สีดำ แต่อย่าเน้นหนักจนเข้มเกินไปเพราะว่าจะทำให้ใบหน้าดูดุเกินไป

อายแชโดว์

ควรใช้อย่างน้อย 3 สี ซึ่งควรเป็นสีที่ใกล้เคียงกัน ลงสีที่อ่อนที่สุดก่อน ไล้ให้ทั่วเปลือกตา จากนั้นใช้สีที่อ่อนปานกลางทาเปลือกตาช่วงรอยพับ ตามด้วยสีที่เข้มที่สุดเป็นอันดับสุดท้ายสำหรับงานกลางคืนควรลงอายแชโดว์ เข้มกว่ากลางวัน เพราะว่าจะทำให้ดวงตาคุณดูโดดเด่นยิ่งขึ้น

อายไลเนอร์

การเขียนขอบตาให้ดูสวยงามนั้น ควรเขียนให้ชิดขอบขนตา แต่เขียนเฉพาะขอบตาบนก็พอ แค่นี้ดวงตาของคุณก็ดูกลมโตแล้ว

ดัดขนตาและปัดมาสคาร่า

ดัดขนตาให้งอน ควรดัดค้างไว้ประมาณ 3 วินาที จากนั้นค่อยปัดมาสคาร่า ไม่ควรปัดเกิน 2 รอบเพราะจะทำให้ดูหนาเกินไปและควรเป็นมาสคาร่าชนิดน้ำจะได้ไม่เลอะเทอะ

บลัชออน

มีให้คุณเลือกใช้หลายแบบ ทั้งชนิดฝุ่น น้ำหรือครีม ชอบแบบไหนเลือกได้เลย ควรยิ้มทุกครั้งเมื่อลงมือปัดบลัชออนบนพวงแก้มที่เปล่งที่สุดไล้เฉียงขึ้น เล็กน้อยก็พอ

ลิปสติก

สีแดงหรือสีส้มเข้ากับงานกลางคืนที่ดูลึกลับน่าค้นหา แล้วลงลิปกลอสตาม

กลิตเตอร์ จะให้ดูโดดเด่นกว่าใครต้องไม่พลาดที่จะติดลิปกลอสที่เป็นประกายวิบวับบนใบ หน้าของคุณ ซึ่งกลิตเตอร์ก็มีหลายสีให้เลือกใช้กัน แต่โทนสีบรอนซ์และสีทองแดงเหมาะกับทุกสีผิว ส่วนสีโทนเย็นอย่างสีม่วง สีชมพูและสีฟ้า จะเหมาะกับสาว ๆ ที่มีผิวค่อนข้างขาว แต่สาวผิวเข้มไม่ต้องน้อยใจไป เพราะโทนสีพีช สีเหลืองหรือสีส้มก็เหมาะกับคุณมาก ๆ และควรติดกลิตเตอร์หลังจากที่คุณแต่งหน้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว